พลังแห่งความเป็นแม่ – แรงบันดาลใจจากศิษย์เก่าทีช ฟอร์ ไทยแลนด์

“เนื่องในวันแม่ปีนี้ เตยอยากให้แม่ทุกคนได้กลับมาชื่นชมตนเอง ว่าเราทำได้ดีแค่ไหนในการหล่อเลี้ยงชีวิตหนึ่งขึ้นมา” “ไม่ว่าลูกจะเป็นอย่างไร จะซาบซึ้งขอบคุณเราหรือไม่ก็ตาม ขอให้แม่ทุกคนภูมิใจในความเป็นแม่และหันกลับมาดูแลจิตใจของตัวเอง เพราะถ้าแม่ไม่มีความสุข ลูกก็อาจจะไม่มีความสุขเช่นกัน ทัศนคติของเราเป็นสิ่งที่ลูกรับรู้และสัมผัสได้" ‘เตย’ - นสวรรณร์ โพธิ์สุวรรณ์ ศิษย์เก่าฯ รุ่นที่ 3 ที่ปัจจุบันได้สวมบทบาทเป็นคุณแม่ กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

     เตยเท้าความถึงประสบการณ์การเป็นครูผู้นำฯ ที่โรงเรียนเพี้ยนพินอนุสรณ์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งทำให้เธอได้เห็นบทบาทสำคัญของผู้ปกครองไว้ว่า “คุณภาพชีวิตและการเรียนของเด็กๆ มีความเกี่ยวข้องกับบทบาทของพ่อแม่มาก หลายคนขาดการดูแลจากครอบครัว พ่อแม่หลายคนต้องทำงานจนไม่ได้กลับบ้าน หรือมีรายได้ไม่พอ” 

     “เด็กๆ จึงต้องช่วยเหลือตนเองโดยการหางานพิเศษทำ จึงไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน เข้าเรียนสาย หรือไม่ได้ทำการบ้าน นอกจากนี้ ยังทำให้ความใส่ใจในการเรียนลดน้อยลง เพราะเด็กก็มุ่งหารายได้มากกว่าการตั้งใจเรียน เลยขาดโอกาสฝึกทักษะอื่นๆ ที่จะได้จากในห้องเรียน ซึ่งส่งผลต่อการเติบโตในอาชีพการงานในอนาคต – ปัญหาเหล่านี้จะถูกบรรเทาลงได้ ด้วยการเข้ามามีบทบาทของพ่อแม่”

น้ำกรอง กำลังอธิบายข้อมูลเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้า เพื่อให้นักเรียนเข้าใจสาเหตุ วิธีการรักษา และแนวทางการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่น (ภาพจาก: โรงเรียนศรีรักษ์ราษฎร์บำรุง)

     “พอเป็นแม่ เรามีความสำคัญมากในการพัฒนาทักษะพื้นฐาน ร่างกาย จิตใจ รวมถึงให้ความอบอุ่น บ่มเพาะทัศนคติที่ดีและสร้างภูมิคุ้มกันทางใจให้กับลูก เพื่อไปเผชิญโลกภายนอกได้อย่างเข้มแข็ง สามารถต่อยอดในสิ่งที่ตัวเองชอบและมีพัฒนาการสมวัย” เตยกล่าว โดยเน้นย้ำเรื่องทัศคติและภูมิคุ้มกันทางใจเป็นพิเศษ

     “จากประสบการณ์ในโรงเรียน ปัญหาส่วนใหญ่มาจากเรื่องทัศนคติและภูมิคุ้มกันใจ เด็กๆ หลายคนรู้ว่าการเรียนเป็นสิ่งที่ดี แต่นิยามแปะป้ายให้ตัวเองว่าไม่เก่ง พอขาดการแก้ไขหรือการช่วยเหลือก็จะรู้สึกว่าเอาดีด้านการเรียนไม่ได้ และไปโฟกัสที่การทำสิ่งที่ได้เงินทันที” 

     “หรือเด็กบางคนพอเจอความล้มเหลวหลายครั้งก็ท้อแท้ ไม่สามารถฟื้นพลังกลับมาได้”

     นอกจากนี้ เด็กๆ หลายคนยังทุกข์จากความคาดหวังที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง เพราะผู้ใช้ social media ในยุคนี้มักถ่ายทอดภาพที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่ภาพของการใช้ความพยายาม การเผชิญความท้าทาย หรือการต้องลุกขึ้นสู้กับความผิดหวัง 

     “เราจะผลักหน้าที่การขัดเกลาบ่มเพาะลูกให้โรงเรียนอย่างเดียวไม่ได้ เด็กๆ อยู่โรงเรียนแค่ 8 – 10 ชม. ต่อวัน ที่เหลือคืออยู่กับเราที่บ้าน เราสามารถช่วยเหลือให้ลูกพัฒนาและเติบโตในระบบการศึกษา หรือปลูกฝังทัศนคติที่ดี เช่น ความอดทน ความไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค การเห็นจุดแข็งและคุณค่าในตัวเอง รวมถึงความสามารถในการมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ รอบตัว”

     “เราสามารถชื่นชมพฤติกรรมที่ดีของเขา พยายามให้เหตุผลในสิ่งที่เขาทำและสะท้อนว่าสิ่งที่เขาทำได้ดีคืออะไร สิ่งที่จะสามารถพัฒนาได้คืออะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้เตยก็ได้จากการเป็นครูผู้นำฯ ในทีช ฟอร์ ไทยแลนด์”

     “ถ้าไม่มีเวลา อย่างน้อยเราก็ควรใส่ใจและช่วยให้เขารู้สึกอบอุ่น เมื่อเขามีปัญหา เขารู้ว่าจะวิ่งหาใครเป็นคนแรก” เตยปิดท้าย

     เตยทำให้เราได้เห็นถึงบทบาทของพ่อแม่ในชีวิตการศึกษาของลูก ซึ่งนอกจากจะช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในการเรียนแล้ว ยังเสริมสร้างความเข้มแข็งทางจิตใจและการมองโลกในแง่ดีอีกด้วย วันแม่ปีนี้ ขอให้คุณแม่ทุกคนได้มองเห็นคุณค่าและภูมิใจในบทบาทที่สำคัญที่สุด นั่นคือ การเป็นแม่ที่รักและพร้อมที่จะสู้เพื่อความสุขและความสำเร็จของลูก

     สุขสันต์วันแม่ค่ะ

     ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาการศึกษาเพื่อเด็กในประเทศไทย ผ่านการเป็นครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง ได้ที่ www.tft.vh-projects.com